ลงนามสั่งซื้อเรือขุดเจาะใหม่/จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ของ MMPCL

Ref: COR:MS/EL07024t/pc

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เรื่อง รายงานการลงนามสั่งซื้อเรือขุดเจาะใหม่และการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน)

เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ขอรายงานว่า บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี ลิมิเต็ด ("เอ็มเคอาร์ 1") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ("เมอร์เมด") จะมีการลงนามในสัญญาสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่กับบริษัท เคนชาน่า เอชแอล เอสดีเอ็น บีเอชดี ("เคเอ็นเอชแอล") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัท เคนชาน่า ปิโตรเลียม เบอร์แฮด ("เคเอ็นพีอี") โดยมีรายละเอียดการสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่และการลงทุนในบริษัทย่อยใหม่ดังนี้

1. วันเดือนปี ที่ทำรายการ
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550 บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี ลิมิเต็ด ("เอ็มเคอาร์ 1") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยทางอ้อมของเมอร์เมด โดยบริษัท เมอร์เมด ดริลลิ่งค์ (สิงคโปร์) จำกัด ("เอ็มดีเอส") ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 75 ของทุนจดทะเบียน และ บริษัท เคนชาน่า ปิโตรเลียม เวนเจอร์ส เอสดีเอ็น บีเอชดี ("เคเอ็นพีวี") ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน ได้ออกหนังสือตอบตกลงในการเข้าทำสัญญา และจะทำการลงนามในสัญญากับ เคเอ็นเอชแอล ในประเทศมาเลเซียในการเป็นผู้ออกแบบ สร้างตัวเรือขุดเจาะรวมทั้งชุดอุปกรณ์ ขุดเจาะ และส่งมอบเรือขุดเจาะใหม่

พิธีลงนามในสัญญาจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550

2. คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง

ผู้ซื้อ : บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี ลิมิเต็ด
ผู้สร้างเรือ : บริษัท เคนชาน่า เอชแอล เอสดีเอ็น บีเอชดี

ความสัมพันธ์ระหว่างและผู้ซื้อกับผู้สร้างเรือ : เคเอ็นเอชแอล และ เคเอ็นพีวี มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นรายเดียวกันคือ เคเอ็นพีอี ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน

...ต่อหน้า 2/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 2
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

3. ลักษณะโดยทั่วไปของรายการและรายละเอียดของสินทรัพย์ที่ซื้อ
เคเอ็นเอชแอล ได้ตกลงที่จะดำเนินการเป็นผู้ออกแบบ สร้างเรือขุดเจาะที่ติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะ บนแท่นขุดเจาะได้ด้วยตัวเอง ("self-erected tender rig") และชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ ("derrick equipment set") (รวมเรียกว่า "เรือขุดเจาะใหม่") คาดว่าจะทำการส่งมอบ เรือในไตรมาส 4 ของปี พ.ศ. 2552 ปัจจุบัน เอ็มเคอาร์ 1 อยู่ในระหว่างการเจรจากับลูกค้า รายใหญ่ๆ หลายรายในภูมิภาคเอเซีย เพื่อทำสัญญาขุดเจาะในระยะยาว และคาดว่า จะประกาศ ผลการทำสัญญาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

เอ็มดีเอส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยเมอร์เมดได้ตกลงกับเคเอ็นพีอีเพื่อจัดตั้งบริษัท ย่อยใหม่ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นเจ้าของเรือขุดเจาะใหม่ลำดังกล่าว รายละเอียดของบริษัท ย่อยอยู่ในหัวข้อ 6

4. เงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติก่อน
การตกลงสั่งต่อเรือขุดเจาะนี้ มีเงื่อนไขให้ (ก) เอ็มเคอาร์ 1 ต้องสรุปเงินกู้ในการสั่งต่อเรือ ขุดเจาะใหม่ และ (ข) เคเอ็นเอชแอล ต้องออกหนังสือค้ำประกันการคืนเงินให้กับ เอ็มเคอาร์ 1 ตามความประสงค์ของ เอ็มเคอาร์ 1 หรือธนาคารเจ้าหนี้ของเอ็มเคอาร์ 1 เพื่อเป็นหลักประกัน เงินกู้ของเอ็มเคอาร์ 1

5. มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน/มูลค่าของสินทรัพย์ที่ซื้อ
ราคาเรือขุดเจาะใหม่ เท่ากับ 136,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (หนึ่งร้อยสามสิบหกล้าน ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา) หรือ เท่ากับ 4,663,440,000 บาท (สี่พันหกร้อยหกสิบสามล้านสี่แสน สี่หมื่นบาท) โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อ 34.29 บาท แยกเป็น ตัวเรือขุดเจาะที่ติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะบนแท่นขุดเจาะได้ด้วยตัวเอง เท่ากับ 91,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (เก้าสิบเอ็ดล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา) และ ชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ เท่ากับ 45,000,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (สี่สิบห้าล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา)

...ต่อหน้า 3/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 3
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

เงื่อนไขการชำระเงินมีดังนี้

งวดชำระเงิน

ตัวเรือขุดเจาะที่ติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะบนแท่นขุดเจาะได้ด้วยตัวเอง

1
ชำระ 15% ของราคาตัวเรือขุดเจาะในวันเซ็นสัญญา
2-11
ชำระ 75% ของราคาตัวเรือขุดเจาะจะชำระตามความคืบหน้าของการสร้างเรือ ตามเงื่อนไขในสัญญา
12
ชำระ 7.5% ของราคาตัวเรือขุดเจาะ ณ วันที่มีการนัดส่งมอบเรือ
13
ชำระ 2.5% ของราคาตัวเรือขุดเจาะในวันที่ประกันสิ้นสุดลง

 

งวดชำระเงิน

ชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ

1
ชำระ 15% ของราคาชุดอุปกรณ์ขุดเจาะในวันเซ็นสัญญา
2-7
ชำระ 75% ของราคาชุดอุปกรณ์ขุดเจาะจะชำระตามความคืบหน้าของการ สร้างชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ ตามเงื่อนไขในสัญญา
8
ชำระ 5% ของราคาชุดอุปกรณ์ขุดเจาะ ณ วันที่มีการนัดส่งมอบ
9
ชำระ 5% ของราคาชุดอุปกรณ์ขุดเจาะในวันที่ประกันสิ้นสุดลง

นอกจากนี้สัญญาดังกล่าวยังระบุเงื่อนไขให้สิทธิเอ็มเคอาร์ 1 ในการสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่ได้อีก 3 ลำ จากเคเอ็นเอชแอลด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะรายงานผลการใช้สิทธิสั่งต่อเรือขุดเจาะ (ถ้ามี) ตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนใน ภายหลัง

6. รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทย่อยใหม่ที่เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะที่สั่งต่อใหม่
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เอ็มดีเอส จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท เมอร์เมด เคนชาน่า ริก 1 พีทีอี แอลทีดี ("เอ็มเคอาร์ 1") ด้วยทุนจดทะเบียนในขั้นต้น คือ 100 (หนึ่งร้อย) ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และทุนชำระแล้วในขั้นต้น 100 (หนึ่งร้อย) ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 100 (หนึ่งร้อย) หุ้น ราคาหุ้นละ 1 (หนึ่ง) ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ธุรกิจหลักของ เอ็มเคอาร์ 1 คือเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับงานขุดเจาะต่างๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งในฐานะที่เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะ ทั้งนี้ จะมีการเพิ่มทุนของเอ็มเคอาร์ 1 โดยมาจากผู้ถือหุ้นลงทุนตามสัดส่วนเมื่อมีการชำระเงินตาม งวดสัญญาเป็นช่วงๆ

...ต่อหน้า 4/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 4
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

ในช่วงแรกของการจัดตั้งบริษัทเอ็มเคอาร์ 1 เอ็มดีเอส จะเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพียงผู้เดียว โดยถือหุ้นใน เอ็มเคอาร์ 1 ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนของเอ็มเคอาร์ 1 อย่างไรก็ตาม ในสัญญาการร่วมลงทุน (Shareholders Agreement) ระหว่างเอ็มดีเอสกับเคเอ็นพีวีใน มาเลเซีย โครงสร้างผู้ถือหุ้นจะเปลี่ยนเป็น เอ็มดีเอส ถือหุ้นร้อยละ 75 และเคเอ็นพีวีถือหุ้น ร้อยละ 25 ในเอ็มเคอาร์ 1

ทั้งนี้ การเพิ่มทุนจดทะเบียนในเอ็มเคอาร์ 1 จะทำเป็นช่วงๆ และผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายจะลงทุน ในหุ้นเพิ่มทุนของเอ็มเคอาร์ 1 ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ จำนวนทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว ขึ้นอยู่กับแหล่งเงินทุนที่หามาได้ในการสร้างเรือขุดเจาะจากทุนของบริษัทและ/หรือจากเงินกู้ การลงทุนจากเคเอ็นพีวี ในหุ้นเพิ่มทุนของเอ็มเคอาร์ 1 จะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ เคเอ็นพีอี และหากต้องมีการวางหลักประกันใดๆ กับบุคคลภายนอก ทั้งเอ็มดีเอสและเคเอ็นพีวี จะรับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้น

คณะกรรมการของเอ็มเคอาร์ 1 จะประกอบด้วย กรรมการที่มาจากเอ็มดีเอส 3 คน และมาจาก เคเอ็นพีวี 1 คน ซึ่งคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาจำนวนเงินค่าใช้จ่ายและทุนที่จะใช้ใน เอ็มเคอาร์ 1

เหตุผลในการร่วมลงทุนกับเคเอ็นพีวี เนื่องจาก เมอร์เมดจะได้ประโยชน์จากชื่อเสียงและ ค่าความนิยมของกลุ่มบริษัท เคเอ็นพีอี ที่มีอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ นอกชายฝั่ง และเพื่อสร้างสัมพันธภาพร่วมกันในการก่อสร้างและส่งมอบเรือขุดเจาะ อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาสมานประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายในการให้บริการลูกค้าได้ดี ยิ่งขึ้นในการให้บริการขุดเจาะน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ธรรมชาตินอกชายฝั่ง และเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกลุ่มบริษัท เคเอ็นพีอี สัญญาการ ร่วมลงทุนจะมีการลงนามในพิธีสัญญาลงนามในวันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ด้วยเช่นกัน

เอ็มเคอาร์ 1 นับเป็นบริษัทที่สองของเมอร์เมดที่ร่วมจัดตั้งขึ้นกับเคเอ็นพีวี บริษัทแรก คือ บริษัท เมอร์เมด ดริลลิ่งค์ เอสดีเอ็น บีเอชดี ("เคเอ็มดี") ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมือ่วันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2550 เพื่อให้บริการขุดเจาะนอกชายฝั่งและให้บริการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ งานขุดเจาะต่างๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศมาเลเซีย เคเอ็มดี เป็น บริษัทที่ร่วมลงทุนระหว่าง เอ็มดีเอส และ เคเอ็นพีวี ด้วยเช่นกัน

...ต่อหน้า 5/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 5
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

7. ข้อมูลเกี่ยวกับ เอ็มดีเอส เคเอ็นพีวี และ เคเอ็นเอชแอล
เอ็มดีเอส เป็นบริษัทที่จดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ด้วย ทุนจดทะเบียนในขั้นต้น คือ 1 (หนึ่ง) ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1 (หนึ่ง) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา มีผู้ถือหุ้นหนึ่งราย คือ เมอร์เมด ถือหุ้นร้อยละ 100 เอ็มดีเอส เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (holding company) สำหรับบริษัทในกลุ่มเมอร์เมดที่มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติ และลงทุนในธุรกิจบริการ งานขุดเจาะและงานที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะประเภทต่างๆ

เคเอ็นพีวี เป็นบริษัทที่จดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550 ด้วยทุนจดทะเบียนในขั้นต้น คือ 1,000,000 (หนึ่งล้าน) ริงกิต แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,000,000 (หนึ่งล้าน) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) ริงกิต และมีทุนชำระแล้ว 2 (สอง) ริงกิต แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2 (สอง) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) ริงกิต เคเอ็นพีวี เป็นบริษัทย่อยของ เคเอ็นพีอี ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 และประกอบธุรกิจหลักโดย การถือหุ้น (investment holding) ในบริษัทต่างๆ การบริหารจัดการ และการให้บริการ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

เคเอ็นเอชแอล เป็นบริษัทที่จดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2525 ด้วยทุนชำระแล้ว 60,000,000 (หกสิบล้าน) ริงกิตมาเลเซีย แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 60,000,000 (หกสิบล้าน) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) ริงกิตมาเลเซีย เคเอ็นเอชแอล เป็นบริษัทย่อยที่เคเอ็นพีอี ถือหุ้นร้อยละ 100 เคเอ็นเอชแอล ประกอบธุรกิจหลักคือ งาน วิศวกรรมโครงสร้างทั้งในและนอกชายฝั่งในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

เคเอ็นพีอี โดยการดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยคือ เคเอ็นเอชแอล เป็นหนึ่งในจำนวน 7 บริษัท รายใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจสร้างแท่น ขุดเจาะนอกชายฝั่งจาก บริษัทน้ำมันแห่งชาติมาเลเซีย ("ปิโตรนัส") กลุ่มบริษัทเคเอ็นพีอีนับ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างแบบบูรณาการและการ สร้างแท่นขุดเจาะให้แก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศมาเลเซีย เคเอ็นพีอีเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งมาเลเซีย

...ต่อหน้า 6/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 6
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

8. ขนาดของรายการ
การคำนวณขนาดของรายการในการสั่งต่อเรือขุดเจาะใหม่ซึ่งรวมการลงทุนที่ เอ็มดีเอส ลงทุนในบริษัท เอ็มเคอาร์ 1 คิดเป็น ร้อยละ 18.41 ของสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 (สินทรัพย์รวมของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 เท่ากับ 25,327,855,829 บาท)

รายการดังกล่าวเข้าข่ายรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์") เนื่องจากเป็นรายการที่ เอ็มเคอาร์ 1 จะลงนามในสัญญากับ เคเอ็นเอชแอล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ เคเอ็นพีอี ที่เป็นบริษัทแม่ของ เคเอ็นพีวี ซึ่งเป็นบุคคล ที่เกี่ยวโยงกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายการดังกล่าวเป็นรายการสนับสนุนธุรกิจปกติของ เอ็มเคอาร์ 1 ที่มีเงื่อนไขทางการค้าทั่วไป จึงสามารถขออนุมัติรายการจากที่ประชุมคณะ กรรมการเท่านั้น

เมื่อรวมรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยแล้วจะมีขนาดของรายการรวมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35.29 ของ มูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 การเข้าทำรายการในครั้งนี้เมื่อรวมกับรายการในรอบ 6 เดือน ที่ผ่านมา จึงเข้าข่ายรายการประเภทที่ 2 ตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์") เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่าย ไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยรายงานต่อ ตลาดหลักทรัพย์ทันที และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการ ต่อตลาดหลักทรัพย์

9. เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน
ตามความเห็นของผู้ประเมินอิสระ R.S. Platou Offshore A.S. ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ราคาเรือขุดเจาะที่สั่งต่อใหม่นี้ เป็นราคาและเงื่อนไขโดยผู้ซื้อและผู้ขายมีความเต็มใจ ที่จะซื้อและขาย และเป็นราคาตลาดที่เป็นธรรม โดยใช้วิธีเปรียบเทียบราคาตลาดในปัจจุบัน จากผู้ซื้อและผู้ขายที่เต็มใจจะซื้อและขาย และตามสภาวะตลาดเท่าที่เป็นอยู่ในช่วงเวลาที่ เกิดรายการ

...ต่อหน้า 7/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 7
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

10. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
เนื่องจากธุรกิจหลักของเมอร์เมดจะรวมถึงการให้บริการงานขุดเจาะต่างๆ และงานวิศว กรรมโยธาใต้น้ำ ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง ดังนั้น การซื้อเรือ ขุดเจาะใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นพันธะสัญญาอย่างหนึ่งของแมอร์เมดในการขยายขนาดกองเรือ ขุดเจาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการในงานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ นอกชายฝั่ง และเพื่อการลดต้นทุนโดยรวม

การมีเรือขุดเจาะใหม่จะทำให้เมอร์เมดมีความแข็งแกร่งทางการตลาดที่ดีขึ้นจากการมีกอง เรือขุดเจาะที่ทันสมัย

ณ ปัจจุบัน เมอร์เมดเป็นเจ้าของเรือขุดเจาะ จำนวน 2 ลำ และเป็นเจ้าของเรือสำหรับ ใช้ในงานวิศวกรรมโยธาใต้น้ำอีก 4 ลำ และ มีเรือที่เช่ามาเพิ่มเติมอีก 2 ลำ

11. แหล่งเงินทุนที่ใช้
มาจากเงินที่เมอร์เมดได้มาจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และเงินกู้จากธนาคาร โดยสัดส่วนของเงินที่ใช้ลงทุนจะต้องไม่เกินร้อยละ 75 ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ เอ็มเคอาร์ 1

12. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทฯ เกี่ยวกับการตกลงเข้าทำรายการ
คณะกรรมการของบริษัท โทรีเซน ไทยเอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า รายการ ดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่เป็นธรรม และสมเหตุสมผลตามสภาวะตลาดในปัจจุบัน และเป็นไป เพื่อประโยชน์ของบริษัท โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และเมอร์เมด อย่างสูงสุด เมอร์เมดเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อเรือขุดเจาะใหม่ นอกจากนี้จะทำให้เมอร์เมดมีความแข็งแกร่งทางการตลาดโดยมีเรือขุดเจาะที่ทันสมัย

...ต่อหน้า 8/

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
หน้า 8
เลขที่เรื่อง COR:MS/EL00724t/pc

 

13. ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบ/หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นของ คณะกรรมการบริษัทฯ
- ไม่มี

 

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)

 


(ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต)

กรรมการผู้จัดการ

(น.ส. นุช กัลยาวงศา)
ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน

 

หมายเหตุ
ข้อมูลของเมอร์เมดที่เปิดเผยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์สามารถดูได้ที่

http://info.sgx.com/webcorannc.nsf/b3b0c35c9025f91e4825735f00232564/ 3883af9188d69d98482573790055d57a?OpenDocument