การประเมินประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท
กลุ่มบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบริหารจัดการให้สอดคล้องและตรงกับประเด็นสาระสำคัญที่กลุ่มบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียของกลุ่มบริษัทให้ความสนใจ หรือมีความคาดหวังให้เกิดการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น จึงมีการประเมินเพื่อทบทวนการเปลี่ยนแปลงประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท โดยพิจารณาให้สอดคล้องตาม กลยุทธ์ ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย และมาตรฐานการรายงานด้านความยั่งยืนขององค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วย การรายงานสากล (GRI: Global Reporting Initiative) เพื่อสะท้อนประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจของกลุ่มบริษัท และอิทธิพลต่อการประเมินและตัดสินใจของผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ อันจะสามารถนำไปบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท และมีรายละเอียดการประเมินทั้งหมด 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. การระบุประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน | 2. การจัดลำดับประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน |
---|---|
กลุ่มบริษัทศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ประเด็นความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกลุ่มธุรกิจ (Materiality Assessment) ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ โดยพิจารณาจากมาตรฐาน ข้อกำหนด แนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนในระดับสากล แนวโน้มความยั่งยืน และประเด็นที่บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับบริบทและการดำเนินการด้านความยั่งยืนขององค์กร รวมทั้งพิจารณาผลกระทบเชิงบวกเชิงลบ ความคาดหวัง ความคิดเห็นและข้อมูลสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อกลุ่มบริษัท โดยในปี 2566 กลุ่มบริษัทสามารถระบุประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนได้ทั้งสิ้น 14 ประเด็น | ในการระบุประเด็นที่มีนัยสำคัญตามมาตรฐานการรายงานสากล (GRI: Global Reporting Initiative) จะมีการประเมินลำดับความสำคัญของประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ โดยพิจารณาจาก 2 มุมมอง คือ 1) โอกาสและผลกระทบต่อการสร้างคุณค่าของกลุ่มบริษัท และ 2) ระดับความสนใจ มุมมอง ผลกระทบ และความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการวิเคราะห์และจัดลำดับประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนผ่านการจัดทำแบบสอบถามออนไลน์ในประเด็นดังกล่าวกับผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 9 กลุ่ม โดยผลการประเมินระดับความสำคัญในปี 2566 แสดงดังแผนผังสรุปประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน (Material Matrix) |
3. การตรวจสอบประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน | 4. การทบทวนประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน |
---|---|
หลังจากผ่านการประเมินลำดับความสำคัญของประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนแล้ว ประเด็นดังกล่าวจะถูกนำเสนอแก่คณะทำงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้รับทราบและตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากนี้ยังได้นำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาทบทวนประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มบริษัท รวมทั้งความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก และขออนุมัติประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะได้รับการนำเสนอในรายงานความยั่งยืนของบริษัทฯ และเว็บไซต์ของบริษัทฯ ต่อไป | เพื่อให้เกิดการดำเนินงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วทั้งองค์กร กลุ่มบริษัทได้มีแผนงานในการติดตามการบริหารจัดการประเด็นที่มีนัยสำคัญ และเปิดเผยผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ และมาตรฐานในการรายงาน รวมทั้งการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะมีการติดตามการบริหารจัดการในแต่ละประเด็นดังกล่าว และนำเสนอต่อคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อทบทวน และปรับปรุงประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มบริษัท ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท |
แผนผังสรุปประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน (Material Matrix)
กลุ่มบริษัทได้จัดกลุ่มประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนออกเป็น 3 มิติ ซึ่งครอบคลุมประเด็นในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ เพื่่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท โดยมีระดับความสำคัญของแต่ละประเด็น ดังนี้
มิติสิ่งแวดล้อม | มิติสังคม | มิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ |
---|---|---|
8. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12. อาชีวอนามัยและความปลอดภัย | 1. ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ |
9. การบริหารจัดการน้ำ | 13. การพัฒนาทุนมนุษย์ | 2. การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า |
10. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกลยุทธ์ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | 14. การตรวจสอบสิทธิมนุษยชน | 3. การบริหารห่วงโซ่คุณค่า |
11. การบริหารจัดการของเสีย | 4. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ | |
5. การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม | ||
6. การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต | ||
7. การบริหารจัดการคุณภาพการบริการ และข้อร้องเรียน |
จากประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัททั้ง 14 ประเด็นดังกล่าว กลุ่มบริษัทจึงได้นำมาพิจารณาเพื่อใช้เป็นกรอบริเริ่มกำหนดทิศทางกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทในปี 2566 อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการกำหนดกรอบการรายงานเนื้อหาที่จะเปิดเผยในแบบ 56-1 One Report และรายงานความยั่งยืนของบริษัทฯ
โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้เปิดเผยการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในรายงานความยั่งยืน ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สื่อให้เห็นถึงการพัฒนาและดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่ครอบคลุมการพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยก่อให้เกิดกระบวนการทบทวน และพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท
หลักเกณฑ์และขอบเขตการรายงาน
ในการรายงาน กลุ่มบริษัทมีการเก็บข้อมูลในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 โดยมีขอบเขต การรายงานผลการดำเนินงานในภาพรวมครอบคลุมข้อมูลของกลุ่มบริษัท และอ้างอิงแนวทางการรายงานให้มีความสอดคล้องตามดัชนีชี้วัดของมาตรฐาน GRI นอกจากนั้นกลุ่มบริษัทมีการรายงานข้อมูลโดยเชื่อมโยงการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท เข้ากับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) หรือ SDGs และรายงานข้อมูลที่ต้องเปิดเผยตามแบบประเมิน Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือหุ้นยั่งยืน หรือ ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ เนื้อหาทั้งหมดของการรายงานในหัวข้อการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทจะผ่านการตรวจสอบและการให้คำแนะนำ พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบต่อข้อมูลสำคัญที่ถูกเปิดเผยในหัวข้อนี้จากผู้บริหารระดับสูง คณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้เนื้อหาของรายงานมีความครบถ้วนและสมบูรณ์ รวมทั้งสามารถสร้างคุณค่าต่อผู้มีส่วนได้เสียในทุกกลุ่มของกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงความคิดเห็น ข้อสงสัย หรือคำแนะนำเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ จะรวบรวมและนำความคิดเห็นดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาและยกระดับการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนขององค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต
ช่องทางการสื่อสาร
ฝ่ายเลขานุการบริษัท
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
อาคารอรกานต์ ชั้น 7 เลขที่ 26/26-27 ซอยชิดลม
ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ : +66 (0) 2250-0569
Email : COR@thoresen.com